คู่มือนำเที่ยวของ TOPAE Hostel

Bussaba
คู่มือนำเที่ยวของ TOPAE Hostel

เที่ยว

สะพานข้ามแม่น้ำแควเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่ง เป็นสะพานที่สำคัญที่สุดของเส้นทางรถไฟสายมรณะ สร้างขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ได้แก่ ทหารอังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลีย ฮอลันดา และนิวซีแลนด์ประมาณ 61,700 คน สมทบด้วยกรรมกรชาวจีน ญวน ชวา มลายู ไทย พม่า และอินเดีย อีกจำนวนมาก มาก่อสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ เพื่อเป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่า ซึ่งเส้นทางช่วงหนึ่งจะต้องข้ามแม่น้ำแควใหญ่ จึงต้องมีการสร้างสะพานขึ้น การสร้างสะพานและทางรถไฟสายนี้ เต็มไปด้วยความยากลำบาก ความทารุณของสงครามและโรคภัย ตลอดจนการขาดแคลนอาหาร ทำให้เชลยศึกหลายหมื่นคนต้องเสียชีวิตลง สะพานข้ามแม่น้ำแควใช้เวลาสร้างเพียง 1 เดือน โดยนำเหล็กจากมลายูมาประกอบเป็นชิ้น ๆ ตอนกลางทำเป็นสะพานเหล็ก 11 ช่วง หัวและโครงสะพานเป็นไม้ มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2486 ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2487 ได้ถูกทิ้งระเบิดหลายครั้งจนสะพานหักท่อนกลาง ภายหลังสงครามสิ้นสุดลง รัฐบาลไทยได้ซ่อมแซมใหม่ด้วยเหล็กรูปเหลี่ยม เมื่อปี พ.ศ. 2489 จนสามารถใช้งานได้ ปัจจุบัน มีการยกย่องให้เป็น สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ
19 現地メンバーのおすすめ
River Kwai Bridge
19 現地メンバーのおすすめ
สะพานข้ามแม่น้ำแควเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่ง เป็นสะพานที่สำคัญที่สุดของเส้นทางรถไฟสายมรณะ สร้างขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ได้แก่ ทหารอังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลีย ฮอลันดา และนิวซีแลนด์ประมาณ 61,700 คน สมทบด้วยกรรมกรชาวจีน ญวน ชวา มลายู ไทย พม่า และอินเดีย อีกจำนวนมาก มาก่อสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ เพื่อเป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่า ซึ่งเส้นทางช่วงหนึ่งจะต้องข้ามแม่น้ำแควใหญ่ จึงต้องมีการสร้างสะพานขึ้น การสร้างสะพานและทางรถไฟสายนี้ เต็มไปด้วยความยากลำบาก ความทารุณของสงครามและโรคภัย ตลอดจนการขาดแคลนอาหาร ทำให้เชลยศึกหลายหมื่นคนต้องเสียชีวิตลง สะพานข้ามแม่น้ำแควใช้เวลาสร้างเพียง 1 เดือน โดยนำเหล็กจากมลายูมาประกอบเป็นชิ้น ๆ ตอนกลางทำเป็นสะพานเหล็ก 11 ช่วง หัวและโครงสะพานเป็นไม้ มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2486 ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2487 ได้ถูกทิ้งระเบิดหลายครั้งจนสะพานหักท่อนกลาง ภายหลังสงครามสิ้นสุดลง รัฐบาลไทยได้ซ่อมแซมใหม่ด้วยเหล็กรูปเหลี่ยม เมื่อปี พ.ศ. 2489 จนสามารถใช้งานได้ ปัจจุบัน มีการยกย่องให้เป็น สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ
ทางรถไฟสายมรณะ สร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยรัฐบาลญี่ปุ่นขอยืมเงินจากรัฐบาลไทย จำนวน 4 ล้านบาท การก่อสร้างใช้เวลาในการสร้างเสร็จเพียง 1 ปี ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2485 ถึงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2486 เพื่อใช้เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ผ่านประเทศพม่า หลังสงครามทางรถไฟบางส่วนถูกรื้อทิ้ง บางส่วนจมอยู่ใต้อ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ์ ทางรถไฟสายนี้ถือเป็นอนุสรณ์ให้รำลึกถึงเหตุการณ์สงครามในครั้งนั้น เนื่องจากน้ำพักน้ำแรงของการบุกเบิกก่อสร้าง เป็นของทหารเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ที่กองทัพญี่ปุ่นเกณฑ์มา เหตุที่ทางรถไฟสายนี้ได้ชื่อว่า ทางรถไฟสายมรณะ ก็เพราะว่า ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายพันธมิตร ได้แก่ ทหารอังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลีย ฮอลันดาและนิวซีแลนด์ ประมาณ 61,700 คนและกรรมกรชาวชาวจีน ญวน ชวา มลายู พม่า อินเดีย อีกจำนวนมากมาก่อสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ เพื่อเป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่า เพื่อลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์ รวมทั้งกำลังพล เพื่อจะไปโจมตีพม่าและอินเดียต่อไป ซึ่งขณะนั้นเป็นดินแดนอาณานิคมของอังกฤษ เส้นทางช่วงหนึ่งจะต้องข้ามแม่น้ำแควใหญ่จึงต้องมีการสร้างสะพานขึ้น การสร้างสะพานและทางรถไฟสายนี้เต็มไปด้วยความยากลำบาก ความทารุณของสงครามและโรคภัยตลอดจนการขาดแคลนอาหาร ทำให้เชลยศึกจำนวนหลายหมื่นคนต้องเสียชีวิตลง ทางรถไฟสายนี้สร้างเสร็จเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2486 และเปิดใช้ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ปีเดียวกัน หลังสิ้นสุดสงครามรัฐบาลไทยได้จ่ายเงินจำนวน 50 ล้านบาท เพื่อซื้อทางรถไฟสายนี้[1]จากอังกฤษ และทำการซ่อมบำรุงบางส่วนของเส้นทางดังกล่าว เพื่อเปิดการเดินรถตั้งแต่สถานีหนองปลาดุกจนถึงสถานีน้ำตก โดยอยู่ในความดูแลของการรถไฟแห่งประเทศไทยจนถึงปัจจุบัน เส้นทางรถไฟสายนี้เป็นอนุสรณ์ของโลกที่จารึกความโหดร้ายทารุณของสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นอนุสรณ์แก่ผู้เสียชีวิตในสงครามด้วย
8 現地メンバーのおすすめ
The Death Railway
8 現地メンバーのおすすめ
ทางรถไฟสายมรณะ สร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยรัฐบาลญี่ปุ่นขอยืมเงินจากรัฐบาลไทย จำนวน 4 ล้านบาท การก่อสร้างใช้เวลาในการสร้างเสร็จเพียง 1 ปี ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2485 ถึงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2486 เพื่อใช้เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ผ่านประเทศพม่า หลังสงครามทางรถไฟบางส่วนถูกรื้อทิ้ง บางส่วนจมอยู่ใต้อ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ์ ทางรถไฟสายนี้ถือเป็นอนุสรณ์ให้รำลึกถึงเหตุการณ์สงครามในครั้งนั้น เนื่องจากน้ำพักน้ำแรงของการบุกเบิกก่อสร้าง เป็นของทหารเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ที่กองทัพญี่ปุ่นเกณฑ์มา เหตุที่ทางรถไฟสายนี้ได้ชื่อว่า ทางรถไฟสายมรณะ ก็เพราะว่า ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายพันธมิตร ได้แก่ ทหารอังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลีย ฮอลันดาและนิวซีแลนด์ ประมาณ 61,700 คนและกรรมกรชาวชาวจีน ญวน ชวา มลายู พม่า อินเดีย อีกจำนวนมากมาก่อสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ เพื่อเป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่า เพื่อลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์ รวมทั้งกำลังพล เพื่อจะไปโจมตีพม่าและอินเดียต่อไป ซึ่งขณะนั้นเป็นดินแดนอาณานิคมของอังกฤษ เส้นทางช่วงหนึ่งจะต้องข้ามแม่น้ำแควใหญ่จึงต้องมีการสร้างสะพานขึ้น การสร้างสะพานและทางรถไฟสายนี้เต็มไปด้วยความยากลำบาก ความทารุณของสงครามและโรคภัยตลอดจนการขาดแคลนอาหาร ทำให้เชลยศึกจำนวนหลายหมื่นคนต้องเสียชีวิตลง ทางรถไฟสายนี้สร้างเสร็จเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2486 และเปิดใช้ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ปีเดียวกัน หลังสิ้นสุดสงครามรัฐบาลไทยได้จ่ายเงินจำนวน 50 ล้านบาท เพื่อซื้อทางรถไฟสายนี้[1]จากอังกฤษ และทำการซ่อมบำรุงบางส่วนของเส้นทางดังกล่าว เพื่อเปิดการเดินรถตั้งแต่สถานีหนองปลาดุกจนถึงสถานีน้ำตก โดยอยู่ในความดูแลของการรถไฟแห่งประเทศไทยจนถึงปัจจุบัน เส้นทางรถไฟสายนี้เป็นอนุสรณ์ของโลกที่จารึกความโหดร้ายทารุณของสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นอนุสรณ์แก่ผู้เสียชีวิตในสงครามด้วย
น้ำตกเอราวัณมีลักษณะที่โดดเด่นกว่าน้ำตกอื่นๆคือเป็นน้ำตกบนเทือกเขาหินปูน ทำให้น้ำมีสีฟ้าอมเขียวเมื่อสะท้อนแสงอาทิตย์ น้ำตกเอราวัณมี 7 ชั้น ดังนี้ [2] ชั้นที่ 1 ไหลคืนรัง ชั้นที่ 2 วังมัจฉา ชั้นที่ 3 ผาน้ำตก ชั้นที่ 4 อกนางผีเสื้อ ชั้นที่ 5 เบื่อไม่ลง ชั้นที่ 6 ดงพฤกษา ชั้นที่ 7 ภูผาเอราวัณ บริเวณน้ำตกชั้นที่ 1 - 4 จะมีปลาพลวง (ปลาตระกูลปลาตะเพียน ลำตัวสีน้ำตาลเขียวเกล็ดโต มีหนวดยาว 2 คู่) แหวกว่ายอยู่เป็นจำนวนมากอันเป็นลักษณะเด่นอีกอย่างหนึ่ง
10 現地メンバーのおすすめ
Erawan Falls
10 現地メンバーのおすすめ
น้ำตกเอราวัณมีลักษณะที่โดดเด่นกว่าน้ำตกอื่นๆคือเป็นน้ำตกบนเทือกเขาหินปูน ทำให้น้ำมีสีฟ้าอมเขียวเมื่อสะท้อนแสงอาทิตย์ น้ำตกเอราวัณมี 7 ชั้น ดังนี้ [2] ชั้นที่ 1 ไหลคืนรัง ชั้นที่ 2 วังมัจฉา ชั้นที่ 3 ผาน้ำตก ชั้นที่ 4 อกนางผีเสื้อ ชั้นที่ 5 เบื่อไม่ลง ชั้นที่ 6 ดงพฤกษา ชั้นที่ 7 ภูผาเอราวัณ บริเวณน้ำตกชั้นที่ 1 - 4 จะมีปลาพลวง (ปลาตระกูลปลาตะเพียน ลำตัวสีน้ำตาลเขียวเกล็ดโต มีหนวดยาว 2 คู่) แหวกว่ายอยู่เป็นจำนวนมากอันเป็นลักษณะเด่นอีกอย่างหนึ่ง
น้ำตกไทรโยคน้อย อำเภอไทรโยค ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค มีชื่อเรียกอีกหนึ่งชื่อว่า น้ำตกเขาพัง มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนผ่านจำนวนมากเพราะเดินทางสะดวกตั้งอยู่ริมถนนหลักเส้นทองผาภูมิ – สังขละ เดินจากถนนเข้าไปเพียง 100 เมตร เป็นน้ำตกที่สวยงาม บริเวณโดยรอบร่มรื่น เป็นน้ำตกชั้นเดียวขนาดไม่ใหญ่มากนัก น้ำตกจากผาไหลกระโจนลงมาด้านล่างมีแอ่งสำหรับเล่นน้ำ บริเวณด้านหน้าและถนนฝั่งตรงข้ามน้ำตกจะมีร้านค้า ร้านอาหาร ของฝากหลายร้าน จึงเหมาะเป็นจุดพักรถไปในคราวเดียวกัน ในวันหยุดพักผ่อนบางทีจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากจนดูวุ่นวาย แต่ก็สนุกสนาน เหมาะสำหรับทริปที่ต้องการสัมผัสน้ำตกที่เดินทางใกล้ตัวเมืองมากที่สุดเพียง 60 กม. เหตุที่เรียกอีกชื่อว่าน้ำตกเขาพัง เพราะเกิดบน หน้าผาหินปูนที่พังทลายลงมาจนเกิดโขดหินปูนลดหลั่นกันอยู่ตรงบริเวณเชิงเขา ต้นกำเนิดเป็นน้ำผุดจากภูเขาแล้วไหลมาตาม ลำธารเล็กๆ ไหลตกลงที่ผาหินปูนที่มีความสูง ประมาณ 15 เมตร ในฤดูฝนน้ำจะเยอะตกจากหน้าผาสวยงามในช่วงเดือน ก.ค. – ต.ค. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเคยเสด็จประพาสต้นน้ำตกแห่งนี้ เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2431 นอกจากจะได้ชมน้ำตกอันสวยงามแล้ว ยังมีหัวรถจักรไอน้ำสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มาตั้งแสดงไว้เพื่อรำลึกถึงการสร้างทางรถไฟสายมรณะ ที่สร้างผ่านหน้าบริเวณน้ำตกเข้าสู่ประเทศพม่าด้วย
12 現地メンバーのおすすめ
サイヨークノイ滝
12 現地メンバーのおすすめ
น้ำตกไทรโยคน้อย อำเภอไทรโยค ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค มีชื่อเรียกอีกหนึ่งชื่อว่า น้ำตกเขาพัง มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนผ่านจำนวนมากเพราะเดินทางสะดวกตั้งอยู่ริมถนนหลักเส้นทองผาภูมิ – สังขละ เดินจากถนนเข้าไปเพียง 100 เมตร เป็นน้ำตกที่สวยงาม บริเวณโดยรอบร่มรื่น เป็นน้ำตกชั้นเดียวขนาดไม่ใหญ่มากนัก น้ำตกจากผาไหลกระโจนลงมาด้านล่างมีแอ่งสำหรับเล่นน้ำ บริเวณด้านหน้าและถนนฝั่งตรงข้ามน้ำตกจะมีร้านค้า ร้านอาหาร ของฝากหลายร้าน จึงเหมาะเป็นจุดพักรถไปในคราวเดียวกัน ในวันหยุดพักผ่อนบางทีจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากจนดูวุ่นวาย แต่ก็สนุกสนาน เหมาะสำหรับทริปที่ต้องการสัมผัสน้ำตกที่เดินทางใกล้ตัวเมืองมากที่สุดเพียง 60 กม. เหตุที่เรียกอีกชื่อว่าน้ำตกเขาพัง เพราะเกิดบน หน้าผาหินปูนที่พังทลายลงมาจนเกิดโขดหินปูนลดหลั่นกันอยู่ตรงบริเวณเชิงเขา ต้นกำเนิดเป็นน้ำผุดจากภูเขาแล้วไหลมาตาม ลำธารเล็กๆ ไหลตกลงที่ผาหินปูนที่มีความสูง ประมาณ 15 เมตร ในฤดูฝนน้ำจะเยอะตกจากหน้าผาสวยงามในช่วงเดือน ก.ค. – ต.ค. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเคยเสด็จประพาสต้นน้ำตกแห่งนี้ เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2431 นอกจากจะได้ชมน้ำตกอันสวยงามแล้ว ยังมีหัวรถจักรไอน้ำสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มาตั้งแสดงไว้เพื่อรำลึกถึงการสร้างทางรถไฟสายมรณะ ที่สร้างผ่านหน้าบริเวณน้ำตกเข้าสู่ประเทศพม่าด้วย